Skip to main content

อาการชาเป็นปัญหาหนึ่งที่พบได้บ่อยเลยค่ะ ทั้งมือชา หรือ เท้าชา บางคนชาทั้ง 2 ข้าง บางคนอาจจะชาแค่ข้างเดียว ️แน่นอนค่ะว่าใครที่มีอาการชา ก็ต้องกังวลว่าจะเป็นโรคเกี่ยวกับสมองหรือเปล่า เป็นเส้นเลือดสมองตีบหรือเปล่า ซึ่งจริง ๆ แล้วอาการชา มีสาเหตุที่เยอะมาก ซึ่งเราพอจะแยกโรคที่เป็นง่าย ๆ ได้จากตำแหน่งที่ชาเป็นหลักค่ะ

อันดับแรก หากอาการชาเป็นครึ่งซีกของร่างกาย เช่น ชาหน้าด้านซ้ายและแขนซ้าย หรือชาแขนขวาและขาขวาต้องหาสาเหตุผิดปกติจากในสมองก่อนเลยค่ะ ซึ่งหากอาการชาครึ่งซีกนี้เกิดขึ้นเฉียบพลัน ก็มักจะมีสาเหตุจากเส้นเลือดสมองตีบหรือแตก แต่หากอาการชาครึ่งซีกเกิดขึ้นช้า ๆ ค่อย ๆ ชาแบบใช้เวลานาน ก็มักเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น สมองอักเสบ ติดเชื้อ หรือเนื้องอกในสมองค่ะ

สำหรับอาการชาที่ไม่ได้เกิดขึ้นครึ่งซีก มักจะเป็นปัญหาที่เส้นประสาทส่วนปลาย (Peripheral neuropathy) โดยอาการชามักอาจจะเป็นที่มือ แขน หรือขา ซึ่งมักจะเป็น 2 ข้างเท่าๆ กัน ส่วนใหญ่จะเกิดจากโรคบางอย่าง เช่น โรคเบาหวาน , ภาวะไทรอยด์ต่ำ , ภาวะขาดวิตามิน บี1, บี 12 ยาหรือสารพิษ บางอย่าง เช่น พิษจากแอลกอฮอล์เรื้อรัง การสูบบุหรี่ ผลข้างเคียงจากยาบางตัว , โรคภูมิแพ้ตัวเอง เช่น SLE , โรคของเส้นประสาทเอง จากการอักเสบเฉียบพลัน ตามหลังการติดเชื้อไวรัส หรือโรคพันธุกรรมบางอย่าง ซึ่งอาการปลายประสาทอักเสบชนิดนี้ อาจจะมีอาการชาแบบหนาๆ ไม่รับความรู้สึก เป็นความรู้สึกเจ็บๆแปล๊บๆ คล้ายเข็มทิ่ม หรือไฟช็อต มักจะมีปัญหา 2 ข้างเท่ากันๆ อาการเด่นบริเวณปลายมือและปลายเท้ามากกว่าส่วนต้นแขนหรือต้นขา (ยกเว้นในบางสาเหตุอาจจะเด่นต้นแขนต้นขาได้) หากอาการเป็นมานาน หรือเป็นเยอะมากๆ อาจจะมีปัญหากล้ามเนื้ออ่อนแรงร่วมด้วยได้ค่ะ

กลุ่มที่สามคือ อาการชาที่เป็นแค่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง เช่น มือขวาชา แขนขวาชา ส่วนใหญ่กลุ่มนี้มักเกิดจากการที่เส้นประสาทถูกกดทับ เช่น โรคพังผืดข้อมือรัดแส้นประสาท ที่เกิดจากการใช้งานข้อมือเยอะและมากเกินไป ทำให้พังผืดหนาตัวจนไปกดเส้นประสาทบริเวณข้อมือ ทำให้มีอาการชา ซึ่งมักจะชาบริเวณนิ้วโป้งและนิ้วชี้ นิ้วกลาง และอาจมีอาการปวดหรือนิ้วมืออ่อนแรงได้ หรือบางท่านชอบนั่งไขว่ห้าง นั่งขัดสมาธินานๆ ก็อาจจะทำให้เส้นประสาทขาถูกกดทับ มีอาการชาขาได้

อีกสาเหตุหนึ่งที่เจอบ่อยคือ กระดูกต้นคอ หรือ กระดูกสันหลังเสื่อม หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท กลุ่มนี้ก็จะมีอาการชาตามแนวเส้นประสาท ที่ออกมาจากกระดูกต้นคอ/หลังที่มีปัญหา ซึ่งลักษณะอาการชา จะชาตามแนวที่เส้นประสาทนั้น ๆ ไปเลี้ยง เกิดอาการชาเป็นแนว ตามในรูปค่ะ

ผู้ป่วยที่มีอาการชา ไม่ว่าจะเป็นชาแบบหนาๆ หรือเจ็บแปล๊บๆ ปวดจากเส้นประสาท หมอจะทำการตรวจวินิจฉัยดังนี้ค่ะ

  1. ซักประวัติและตรวจร่างกายก่อน ว่าตำแหน่งที่มีปัญหาน่าจะเกิดจากส่วนใด เป็นจากในสมอง/ไขสันหลัง หรือเป็นปัญหาที่เส้นประสาทส่วนปลาย เพราะการตรวจวินิจฉัยและการรักษาจะแตกต่างกันไป
  2. หากคนไข้ที่สงสัยปลายประสาทอักเสบต่างๆ หมอจะตรวจเลือด หาโรคที่มักเป็นสาเหตุ เช่น เบาหวาน, ไทรอยด์
  3. บางท่าน อาจจะต้องมีการส่งตรวจเพิ่มเติมทางเส้นประสาท  เช่น การตรวจคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อ (เรียกย่อว่า EMG หรือ Electromyography) และการตรวจความเร็วการนำสัญญาณประสาท (เรียกย่อว่า NCV หรือ Nerve conduction velocity)
  4. สำหรับท่านที่หมอสงสัยเรื่องกระดูกเสื่อม หรือหมอนรองกระดูก กดทับเส้นประสาท ก็อาจจะต้องตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) บริเวณกระดูกสันหลังต่อไปค่ะ 

สำหรับการรักษาเรื่องอาการชา อันดับแรก เราต้องรักษาที่สาเหตุก่อนค่ะ เช่น หากเป็นเบาหวาน ก็ต้องรักษาโดยการคุมระดับน้ำตาล หากมีไทรอยด์ต่ำก็ต้องทานยาไทรอยด์ฮอร์โมน เป็นต้น

ส่วนการรักษาอื่นๆ ที่ควรทำร่วมกัน ได้แก่

  • การเลิกบุหรี่และแอลกอฮอล์ เนื่องจากบุหรี่ และแอลกอฮอล์ ทำให้มีเส้นเลือดตีบลง ไปเลี้ยงเส้นประสาทได้ไม่ดี และยังทำลายเส้นประสาทโดยตรงด้วย
  • การรับประทานวิตามิน โดยเฉพาะบี 1 และ บี 12 เนื่องจากเป็นวิตามินที่สำคัญต่อการทำงานของเส้นประสาท
  • การออกกำลังกาย ดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญ และช่วยป้องกันโรคที่เกี่ยวข้องกับหลอดเลือดต่างๆ เช่น เบาหวาน ไขมัน และความดันโลหิตสูง ถ้าเลือดไหลเวียนไม่ดี ก็จะมีปัญหาที่เส้นประสาทได้

นอกจากนี้ในปัจจุบัน ยังมีการรักษาเส้นประสาทด้วยทางเลือกอื่นๆ เช่น การรักษาทางกายภาพบำบัด ซึ่งที่ H8 clinic จะมีการรักษาด้วยเทคโนโลยี เครื่องกระตุ้นแม่เหล็กไฟฟ้า (PMS) ซึ่งเครื่องจะส่งสัญญาณไปที่เส้นประสาทโดยตรง ทำให้เกิดกระตุ้นของเส้นประสาทที่ทำหน้าที่รับความรู้สึก และเส้นประสาทสั่งการ ที่ทำหน้าที่สั่งการหดคลายของกล้ามเนื้อ การรักษาด้วยเครื่องนี้ต่อเนื่อง จึงช่วยทำให้อาการชาจากปลายประสาทอักเสบดีขึ้น และยังช่วยให้คลายกล้ามเนื้อ ลดอาการปวด รวมถึงช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตได้ดีขึ้นด้วยค่ะ
 

รีวิวจากลูกค้าจริง

ทำความรู้จักหมอนุ่ม

หมอนุ่ม (พญ. ศุภมาศ วิบูรณ์สุขสันต์) เป็นหมอด้านโรคระบบประสาทและสมอง เน้นการรักษาด้วยการใช้ยา และปรับพฤติกรรมเป็นหลัก โรคที่รักษาจะมีตั้งแต่ ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ หน้ามืด ตามัว อาการชา อ่อนแรง อัมพฤกษ์ อัมพาต พาร์กินสัน โรคลมชัก และ สมองเสื่อม

 

"หมอเป็นแพทย์มา 13 ปี และดูแลคนไข้โรคสมองมา 7 ปี จะเห็นว่าคนที่มาพบแพทย์ด้วยอาการปวดศีรษะเยอะมากๆ ค่ะ และคนไข้ส่วนใหญ่มักยังมีความเข้าใจผิด เช่นมีความกังวล กลัวว่าจะเป็นโรคที่ร้ายแรง เช่นเนื้องอกในสมอง หรือบางท่านก็คิดว่า อาการปวดหัว นอนไม่หลับ เป็นโรคที่รักษาไม่หาย ต้องกินยาไปเรื่อยๆ ซึ่งจริงๆแล้ว สาเหตุของอาการปวดหัวมีเยอะมาก และมีทั้งที่รักษาและป้องกันให้หายขาดได้ ซึ่งบางคนทนมาหลายปี ทั้งที่จริง ๆ แล้วรักษาให้หายขาดได้ค่ะ ยิ่งในสภาวะปัจจุบัน ที่ความเครียดพุ่งสูงปรี๊ด คนที่มีปัญหาปวดหัว นอนไม่หลับ ยิ่งเยอะมากขึ้นอีก หมอจึงอยากให้ H8 clinic เป็นที่ที่ให้คำปรึกษา และรักษาคนไข้ได้อย่างตรงจุด เพื่อให้คนไข้ได้กลับมาใช้ชิวิตอย่างมีความสุขค่ะ"