ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

อาการปวดหัวสามารถบอกอะไรเราได้บ้าง?

ปวดหัว อาการที่หลายๆ คนส่วนใหญ่มักมองว่าเป็นเรื่องปกติ เป็นแล้วสักพักก็หายเป็นธรรมดา แต่ถ้าหากมีอาการปวดหัวที่รุนแรงและถี่มากกว่าปกติ อาจส่งผลอันตรายต่อสุขภาพ หรือเป็นสัญญาณเตือนของความผิดปกติในร่างกายได้ H8 Clinic 
ขอพาคุณมาดูอาการปวดหัวรูปแบบต่างๆ ที่สามารถบอกถึงความผิดปกติของร่างกายเราได้ค่ะ 

1.ปวดหัวแบบคลัสเตอร์ คือการปวดหัวแบบข้างเดียว แต่มีอาการปวดรุนแรงกว่าการปวดหัวไมเกรน มีอาการปวดเบ้าตา 
ตาแดง น้ำตาไหล และมีเหงื่อออกบริเวณหัวข้างที่ปวดร่วมด้วย อาการปวดหัวแบบคลัสเตอร์จะเกิดขึ้นไม่นานอยู่ในช่วงประมาณ 5 นาที ถึง 3 ชั่วโมงค่ะ

2.ปวดหัวจากความเครียด อาการปวดหัวจากความเครียด มักมีความรู้สึก ปวดหัวตื้อๆ ปวดหัวแบบบีบรัด หรือปวดเป็นวงกว้างบนศีรษะ และมีอาการปวดเบ้าตาร่วมได้ค่ะ โดยสามารถร้าวลงมาได้ถึงท้ายทอย ส่วนใหญ่อาการมักเกิดขึ้นได้ในช่วงบ่ายหรือเย็น เป็นวัญญาณที่ร่างกายบ่งบอกว่า ถึงเวลาต้องพักผ่อนเพื่อคลายกล้ามเนื้อที่กำลังตึงจากความเครียดได้แล้วค่ะ

3.ปวดหัวไมเกรน มักมีอาการปวดตุบๆ ข้างใดข้างหนึ่ง และจะยิ่งมีอาการปวดมากขึ้นเมื่อเจอแสงสว่างจ้า หรือเสียงดัง อาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย โดยอาการปวดหัวไมเกรนสามารถเกิดได้นาน 3-72 ชั่วโมง และจะดีขึ้นเมื่อได้รับการพักผ่อนอยู่นิ่งๆ ในห้องที่มืดสนิทและอากาศเย็นค่ะ 

4.ปวดหัวเพราะโรคหลอดเลือดสมอง มีอาการปวดหัวแบบรุนแรงเฉียบพลัน รวมถึงมีอาการปากเบี้ยว พูดไม่ได้ แขนขาอ่อนแรง ร่วมด้วย ควรรีบพาไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพราะอาจหมดสติและรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ค่ะ

 5.ปวดหัวเพราะเนื้องอกในสมอง ข้อสังเกตของอาการปวดหัวเพราะเนื้องอกในสมอง คือมักชอบอาการปวดหัวบ่อยๆ และรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละครั้ง มีอาการคลื่นไส้อาเจียน พูดจาติดขัด ร่วมด้วย มีปัญหาเรื่องการมองเห็น และการเดิน รวมไปถึงกมีอาการชักทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หรือไม่เคยมีประวัติการชัก หากมีอาการปวดหัวที่รุนแรงพร้อมมีอาการข้างต้นที่กล่าวมาร่วมด้วย อาจเป็นสัญญาณบอกถึง “เนื้องอกในสมอง” ได้ค่ะ

หากผู้อ่านท่านใดมีความสนใจอยากเข้ารับการรักษาหรือตรวจวินิจฉัยอาการปวดหัว สามารถปรึกษาได้ที่ H8 Clinic คลินิกเฉพาะทางด้านรักษาอาการปวดหัว โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและนวัตกรรมการรักษาที่หลากหลายและทันสมัย ใส่ใจทุกเคสการรักษา เพื่อให้อาการปวดหัวไม่มารบกวนการใช้ชีวิตของคุณอีกค่ะ